
credit suisse คืออะไร? 5 เรื่องควรรู้เกี่ยวกับวิกฤตธนาคารสวิสและการเข้าซื้อกิจการโดย UBS
Credit Suisse คืออะไร? ทำความรู้จักธนาคารสวิสชื่อดังที่เผชิญวิกฤต
Credit Suisse ถือเป็นธนาคารชั้นนำของสวิตเซอร์แลนด์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและชื่อเสียงโด่งดัง ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2400 โดยอัลเฟรด เอเชอร์ เพื่อช่วยเหลือโครงการก่อสร้างทางรถไฟในประเทศ จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ นั้น ธนาคารได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นผู้เล่นสำคัญในวงการการเงินระดับโลก โดยเฉพาะด้านธนาคารส่วนบุคคล ธนาคารเพื่อการลงทุน และการจัดการสินทรัพย์

เครือข่ายของ Credit Suisse ครอบคลุมทั่วโลก ให้บริการแก่ลูกค้าที่มีทรัพย์สินมหาศาล สถาบันการเงิน และบริษัทขนาดใหญ่ ชื่อเสียงด้านความมั่นคงและการบริการชั้นเลิศ ทำให้ธนาคารนี้เป็นตัวแทนของความแข็งแกร่งในระบบการเงินสวิส แต่ในช่วงปีหลังๆ กลับต้องเผชิญความท้าทายรุนแรง จนนำไปสู่จุดพลิกผันครั้งใหญ่ คือการถูก UBS ธนาคารคู่แข่ง เข้าซื้อกิจการ
ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย Credit Suisse เคยมีบทบาทโดดเด่น โดยเฉพาะการให้คำปรึกษาทางการเงินและบริการลงทุนแก่ลูกค้าชาวไทย แม้จะไม่มีสาขารับฝากเงินสำหรับบุคคลทั่วไป แต่ธนาคารนี้ยังคงเป็นที่รู้จักดีในหมู่นักลงทุนและผู้ประกอบการที่ต้องการบริการระดับสากล
วิกฤต Credit Suisse: จากชื่อเสียงที่สั่นคลอนสู่ปัญหาการขาดสภาพคล่อง
ปัญหาที่ Credit Suisse พบเจอไม่ได้เกิดขึ้นกะทันหัน แต่ค่อยๆ สะสมจากความผิดพลาดหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอื้อฉาว การจัดการความเสี่ยงที่บกพร่อง และความอ่อนแอด้านสภาพคล่อง ซึ่งกัดกินความเชื่อมั่นจากลูกค้าและนักลงทุนอย่างไม่หยุดยั้ง

ตลอดหลายปีมานี้ ธนาคารต้องรับมือกับเหตุการณ์ที่ทำลายภาพลักษณ์อย่างหนัก ตัวอย่างเด่นชัดคือ
- กรณี Archegos Capital ในปี 2564 Credit Suisse สูญเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการล้มละลายของกองทุนเฮดจ์ฟันด์นี้ เนื่องจากธนาคารปล่อยกู้จำนวนมากโดยใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน เมื่อกองทุนผิดนัด ผลกระทบจึงรุนแรงทันที
- กรณี Greensill Capital ในปีเดียวกัน ธนาคารต้องปิดกองทุนที่เชื่อมโยงกับบริษัทนี้ซึ่งล้มละลาย เพราะลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูง ส่งผลให้ลูกค้าที่ถือหน่วยลงทุนสูญเสียอย่างมาก
เหตุการณ์เหล่านี้เผยให้เห็นจุดอ่อนในการควบคุมความเสี่ยงภายในองค์กร จนหน่วยงานกำกับดูแลการเงินสวิสอย่าง FINMA ต้องเข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียด ความผิดพลาดที่เกิดซ้ำๆ ทำให้ความไว้วางใจจากตลาดลดฮวบ ลูกค้าถอนเงินออกจำนวนมาก สร้างปัญหาสภาพคล่องที่ย่ำแย่ โดยเฉพาะช่วงปลายปี 2565 ถึงต้นปี 2566 จนเกิดความหวั่นเกรงว่าธนาคารอาจล้มละลาย
UBS เข้าช่วยเหลือ: การเข้าซื้อกิจการครั้งประวัติศาสตร์และการแทรกแซงของรัฐบาล
สถานการณ์ย่ำแย่ลงสุดขีดในเดือนมีนาคม 2566 เมื่อ Credit Suisse ไม่สามารถฟื้นความเชื่อมั่นได้อีก รัฐบาลสวิสและธนาคารกลางสวิส หรือ SNB จึงเข้าแทรกแซงเพื่อป้องกันหายนะที่อาจลุกลามไปยังระบบการเงินโลก สำนักข่าว Reuters รายงานว่า UBS ธนาคารยักษ์ใหญ่แห่งสวิตเซอร์แลนด์ ตกลงซื้อกิจการ Credit Suisse ในราคา 3 พันล้านฟรังก์สวิส หรือราว 3.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยได้รับการอนุมัติจากทางการ

ข้อตกลงนี้เกิดภายใต้แรงกดดันจากรัฐและธนาคารกลาง ที่กลัวว่าการล้มละลายของ Credit Suisse จะสร้างความเสียหายรุนแรงต่อเศรษฐกิจสวิสและโลก รัฐบาลจึงให้ความช่วยเหลือทางการเงิน ค้ำประกันความเสี่ยงบางส่วนแก่ UBS และ SNB จัดหาสภาพคล่องฉุกเฉิน การรวมกิจการนี้เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าธุรกิจธนาคารสวิสและระดับโลกอย่างสิ้นเชิง
“ใหญ่เกินกว่าจะล้ม” (Too Big To Fail) กับกรณี Credit Suisse
แนวคิดใหญ่เกินกว่าจะล้ม หรือ TBTF หมายถึงสถาบันการเงินขนาดยักษ์ที่มีบทบาทเชื่อมโยงระบบเศรษฐกิจอย่างลึกซึ้ง จนทางการไม่สามารถปล่อยให้ล้มได้ เพราะจะก่อความเสียหายแผ่ขยายกว้างขวาง กรณี Credit Suisse คือตัวอย่างที่ชัดเจน
ธนาคารนี้เป็นส่วนสำคัญของระบบการเงินโลก หากล้มละลาย อาจจุดชนวนความตื่นตระหนกทั่วตลาด การถอนเงินหมู่จากธนาคารอื่นๆ และการหยุดชะงักของสินเชื่อ ซึ่งกระทบเศรษฐกิจจริงอย่างรุนแรง รัฐบาลสวิสจึงผลักดันให้ UBS เข้าซื้อ เพื่อหลีกเลี่ยงหายนะ แม้จะจุดประกายคำถามเรื่องความรับผิดชอบและความเสี่ยงทางศีลธรรมที่รัฐต้องแบก
ผลกระทบของวิกฤต Credit Suisse ต่อตลาดการเงินโลก
วิกฤตนี้ก่อความปั่นป่วนและความไม่แน่นอนในตลาดการเงินทั่วโลก โดยเฉพาะช่วงข่าวลือการล้มละลายที่แพร่สะพัด
- ภาคธนาคารในยุโรปและสหรัฐฯ: สร้างความกังวลต่อความมั่นคงโดยรวม โดยเฉพาะยุโรปและอเมริกาที่เผชิญปัญหาธนาคารเล็กๆ ล้มในเวลาใกล้เคียง การเข้าซื้อโดย UBS ช่วยคลายความตึงเครียดได้บ้าง แต่ความไม่เชื่อมั่นยังหลงเหลือ
- ตลาดหุ้นและตราสารหนี้: หุ้นธนาคารหลายแห่งร่วงกระหน่ำ นักลงทุนหันไปสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำและพันธบัตรรัฐ การลดมูลค่าพันธบัตร AT1 ของ Credit Suisse เป็นศูนย์ในดีลนี้ ตามรายงานของ Bloomberg สร้างความหวาดกลัวในตลาดหนี้ เพิ่มต้นทุนกู้ยืมให้ธนาคารอื่น
- กฎระเบียบและการกำกับดูแล: คาดว่าจะนำไปสู่การปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะธนาคารสำคัญเชิงระบบ เพื่อป้องกันวิกฤตซ้ำรอย
มุมมองจากประเทศไทย: วิกฤต Credit Suisse ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินไทยอย่างไร?
ในมุมของประเทศไทย วิกฤต Credit Suisse เป็นเรื่องที่ต้องติดตามใกล้ชิด เพราะธนาคารนี้เคยมีอิทธิพลต่อตลาดทุนไทยในหลายรูปแบบ
- บทบาทของ Credit Suisse ในไทย: แม้ไม่มีสาขาธนาคารทั่วไป แต่ธนาคารนี้เป็นผู้ให้บริการหลักด้านลงทุนและที่ปรึกษาแก่ลูกค้ารายใหญ่ ครอบคลุมการระดมทุน การ并购 และการจัดการทรัพย์สินสำหรับบริษัทจดทะเบียนและบุคคลร่ำรวย
- ผลกระทบต่อธนาคารไทย: ธนาคารใหญ่ๆ อย่างกสิกรไทย ไทยพาณิชย์ และกรุงเทพ มีความเชื่อมโยงกับธนาคารต่างชาติผ่านการกู้ยืมและลงทุน แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยยืนยันว่า ระบบธนาคารไทยแข็งแกร่ง มีทุนและสภาพคล่องสูง จึงกระทบโดยตรงน้อย
- คำแนะนำสำหรับนักลงทุนไทย:
- ตรวจสอบพอร์ตการลงทุน: หากมีส่วนในกองทุนหรือหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ Credit Suisse ควรเช็คสถานะละเอียดและปรึกษาที่ปรึกษาการเงิน
- จับตาหุ้นธนาคาร: แม้ธนาคารไทยมั่นคง แต่ความผันผวนโลกอาจกดดันราคาหุ้น ต้องติดตามข่าวและประเมินความเสี่ยง
- กระจายความเสี่ยง: วิกฤตนี้เตือนให้กระจายลงทุนข้ามสินทรัพย์ ภูมิภาค และอุตสาหกรรม
- บทเรียนสำหรับระบบการเงินไทย: เป็นโอกาสให้หน่วยงานกำกับดูแลเสริมความแข็งแกร่ง เตรียมรับมือความเสี่ยงจากวิกฤตต่างชาติ โดยเฉพาะการตรวจสอบธนาคารต่างด้าวและประเมินความเสี่ยงระบบ
อนาคต: ภาคธนาคารหลังยุค Credit Suisse และกลยุทธ์การลงทุน
การซื้อกิจการโดย UBS สิ้นสุดยุคของ Credit Suisse และเปิดบทใหม่ให้ UBS ที่ใหญ่โตและซับซ้อนกว่าเดิม
- ความท้าทายในการควบรวม: UBS ต้องจัดการบูรณาการธุรกิจ วัฒนธรรม ลดพนักงาน และสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งเป็นงานหนักหนา
- อนาคตของธนาคารโลก: เร่งการเปลี่ยนแปลง เช่น กฎเกณฑ์เข้มงวดขึ้น ความมั่นคงทางการเงิน และทบทวนแนวคิดใหญ่เกินล้ม
- กลยุทธ์ลงทุนระยะยาวสำหรับนักลงทุนไทย: ในยุคไม่แน่นอน ควรระมัดระวังและมองไกล:
- คุณภาพและความแข็งแกร่ง: เลือกบริษัทฐานะดี งบการเงินมั่นคง กระแสเงินสดสม่ำเสมอ
- กระจายการลงทุน: หลักสำคัญในการลดความเสี่ยง
- ติดตามข้อมูลใกล้ชิด: สังเกตการณ์เศรษฐกิจ การเมือง และนโยบายโลก เพื่อปรับแผน
วิกฤต Credit Suisse เตือนใจว่าแม้สถาบันเก่าแก่แค่ไหนก็อาจสะดุดได้ สร้างความตระหนักถึงการบริหารความเสี่ยง การกำกับดูแลที่ดี และความรอบคอบในการลงทุน
Credit Suisse คืออะไร และทำไมถึงสำคัญกับโลกการเงิน?
Credit Suisse เป็นธนาคารเก่าแก่และยักษ์ใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ มีบทบาทหลักในธนาคารส่วนบุคคล การลงทุน และจัดการสินทรัพย์ทั่วโลก ความสำคัญอยู่ที่ขนาดและการเชื่อมโยงระบบการเงิน หากล้ม อาจก่อความไม่มั่นคงแผ่ขยายได้
UBS เข้าซื้อ Credit Suisse มีผลกระทบต่อลูกค้าในประเทศไทยอย่างไรบ้าง?
ลูกค้าไทยที่ใช้บริการ Credit Suisse โดยเฉพาะส่วนบุคคลหรือลงทุน อาจต้องเปลี่ยนไปใช้ระบบ UBS การเปลี่ยนแปลงนี้ UBS จะแจ้งโดยตรง ลูกค้าควรติดต่อเพื่อยืนยันบัญชีและการลงทุน
ธนาคารสวิสในไทยยังมีอยู่ไหม และ Credit Suisse เคยมีสาขาในกรุงเทพฯ หรือไม่?
UBS ยังดำเนินงานในไทย มุ่งบริการลงทุนและจัดการความมั่งคั่งสำหรับลูกค้ารายใหญ่ Credit Suisse ไม่มีสาขารายย่อยในกรุงเทพฯ แต่มีสำนักงานตัวแทนสำหรับลูกค้าสถาบันและร่ำรวย
วิกฤต Credit Suisse สอนอะไรนักลงทุนไทย และควรปรับกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร?
สอนให้เห็นความสำคัญของการกระจายความเสี่ยง หลีกเลี่ยงการรวมตัวในสถาบันใดสถาบันหนึ่ง พิจารณาความเสี่ยงสินทรัพย์อย่างละเอียด และติดตามเศรษฐกิจโลก แนะนำลงทุนสินทรัพย์คุณภาพดี ฐานะแข็ง และกระจายข้ามประเภทกับภูมิภาค
“ธนาคารใหญ่เกินกว่าจะล้ม” หมายความว่าอย่างไรในบริบทของ Credit Suisse?
ในกรณีนี้ หมายถึงธนาคารขนาดใหญ่เชื่อมโยงระบบการเงินโลกมาก การล้มจะกระทบเศรษฐกิจและตลาดรุนแรง จนรัฐและธนาคารกลางต้องแทรกแซงป้องกันผลกระทบระบบ
รัฐบาลสวิสเข้ามาช่วย Credit Suisse อย่างไร และทำไมต้องทำ?
รัฐบาลสวิสและ SNB อำนวยความสะดวกดีล UBS โดยให้สภาพคล่องฉุกเฉินและค้ำประกันความเสียหายบางส่วนแก่ UBS เพื่อรักษาเสถียรภาพการเงินสวิสและโลก ป้องกันความตื่นตระหนกที่อาจลุกลาม
อนาคตของ UBS หลังจากควบรวม Credit Suisse จะเป็นอย่างไร?
UBS จะใหญ่และซับซ้อนกว่าเดิม อนาคตขึ้นกับการบูรณาการ ลดต้นทุน และจัดการความเสี่ยง คาดยังเป็นผู้เล่นหลักโลก แต่ต้องรักษาความเชื่อมั่นลูกค้าและนักลงทุนยาวนาน
นักลงทุนไทยที่ถือหุ้นหรือพันธบัตรของ Credit Suisse ควรทำอย่างไร?
ผู้ถือหุ้น Credit Suisse จะได้หุ้น UBS ตามสัดส่วน ส่วน AT1 bonds ถูกลดเป็นศูนย์ ส่งผลเสียหายหนัก ควรปรึกษาที่ปรึกษาการเงินหรือสถาบันเพื่อเข้าใจผลกระทบและทางเลือก
วิกฤตครั้งนี้แตกต่างจากวิกฤตการเงินปี 2008 อย่างไร?
เป็นปัญหาเฉพาะธนาคารจากบริหารเสี่ยงผิดและอื้อฉาว ต่างจากปี 2008 ที่มาจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ และตราสารหนี้ด้อยคุณภาพ แต่ทั้งคู่เน้นการกำกับดูแลและจัดการเสี่ยง
การกำกับดูแลธนาคารทั่วโลกจะเข้มงวดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ Credit Suisse หรือไม่?
น่าจะเข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะธนาคารระบบสำคัญ หน่วยงานจะเพิ่มทุน สภาพคล่อง และบริหารเสี่ยง เพื่อป้องกันซ้ำรอยและสร้างความเชื่อมั่น
Credit Suisse คืออะไร และทำไมถึงสำคัญกับโลกการเงิน?
Credit Suisse เป็นธนาคารเก่าแก่และยักษ์ใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ มีบทบาทหลักในธนาคารส่วนบุคคล การลงทุน และจัดการสินทรัพย์ทั่วโลก ความสำคัญอยู่ที่ขนาดและการเชื่อมโยงระบบการเงิน หากล้ม อาจก่อความไม่มั่นคงแผ่ขยายได้
UBS เข้าซื้อ Credit Suisse มีผลกระทบต่อลูกค้าในประเทศไทยอย่างไรบ้าง?
ลูกค้าไทยที่ใช้บริการ Credit Suisse โดยเฉพาะส่วนบุคคลหรือลงทุน อาจต้องเปลี่ยนไปใช้ระบบ UBS การเปลี่ยนแปลงนี้ UBS จะแจ้งโดยตรง ลูกค้าควรติดต่อเพื่อยืนยันบัญชีและการลงทุน
ธนาคารสวิสในไทยยังมีอยู่ไหม และ Credit Suisse เคยมีสาขาในกรุงเทพฯ หรือไม่?
UBS ยังดำเนินงานในไทย มุ่งบริการลงทุนและจัดการความมั่งคั่งสำหรับลูกค้ารายใหญ่ Credit Suisse ไม่มีสาขารายย่อยในกรุงเทพฯ แต่มีสำนักงานตัวแทนสำหรับลูกค้าสถาบันและร่ำรวย
วิกฤต Credit Suisse สอนอะไรนักลงทุนไทย และควรปรับกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร?
สอนให้เห็นความสำคัญของการกระจายความเสี่ยง หลีกเลี่ยงการรวมตัวในสถาบันใดสถาบันหนึ่ง พิจารณาความเสี่ยงสินทรัพย์อย่างละเอียด และติดตามเศรษฐกิจโลก แนะนำลงทุนสินทรัพย์คุณภาพดี ฐานะแข็ง และกระจายข้ามประเภทกับภูมิภาค
“ธนาคารใหญ่เกินกว่าจะล้ม” หมายความว่าอย่างไรในบริบทของ Credit Suisse?
ในกรณีนี้ หมายถึงธนาคารขนาดใหญ่เชื่อมโยงระบบการเงินโลกมาก การล้มจะกระทบเศรษฐกิจและตลาดรุนแรง จนรัฐและธนาคารกลางต้องแทรกแซงป้องกันผลกระทบระบบ
รัฐบาลสวิสเข้ามาช่วย Credit Suisse อย่างไร และทำไมต้องทำ?
รัฐบาลสวิสและ SNB อำนวยความสะดวกดีล UBS โดยให้สภาพคล่องฉุกเฉินและค้ำประกันความเสียหายบางส่วนแก่ UBS เพื่อรักษาเสถียรภาพการเงินสวิสและโลก ป้องกันความตื่นตระหนกที่อาจลุกลาม
อนาคตของ UBS หลังจากควบรวม Credit Suisse จะเป็นอย่างไร?
UBS จะใหญ่และซับซ้อนกว่าเดิม อนาคตขึ้นกับการบูรณาการ ลดต้นทุน และจัดการความเสี่ยง คาดยังเป็นผู้เล่นหลักโลก แต่ต้องรักษาความเชื่อมั่นลูกค้าและนักลงทุนยาวนาน
นักลงทุนไทยที่ถือหุ้นหรือพันธบัตรของ Credit Suisse ควรทำอย่างไร?
ผู้ถือหุ้น Credit Suisse จะได้หุ้น UBS ตามสัดส่วน ส่วน AT1 bonds ถูกลดเป็นศูนย์ ส่งผลเสียหายหนัก ควรปรึกษาที่ปรึกษาการเงินหรือสถาบันเพื่อเข้าใจผลกระทบและทางเลือก
วิกฤตครั้งนี้แตกต่างจากวิกฤตการเงินปี 2008 อย่างไร?
เป็นปัญหาเฉพาะธนาคารจากบริหารเสี่ยงผิดและอื้อฉาว ต่างจากปี 2008 ที่มาจากสินเชื่อที่อยู่อาศัยสหรัฐฯ และตราสารหนี้ด้อยคุณภาพ แต่ทั้งคู่เน้นการกำกับดูแลและจัดการเสี่ยง
การกำกับดูแลธนาคารทั่วโลกจะเข้มงวดขึ้นหลังจากเหตุการณ์ Credit Suisse หรือไม่?
น่าจะเข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะธนาคารระบบสำคัญ หน่วยงานจะเพิ่มทุน สภาพคล่อง และบริหารเสี่ยง เพื่อป้องกันซ้ำรอยและสร้างความเชื่อมั่น
發佈留言
很抱歉,必須登入網站才能發佈留言。