Pip และการวัดผลกำไรใน Forex: สิ่งที่เทรดเดอร์ต้องรู้

Pip คืออะไร? ทำความเข้าใจหน่วยที่เล็กที่สุดแต่สำคัญที่สุดใน Forex

สำหรับนักเทรดที่เพิ่งเริ่มต้นเส้นทางในตลาด Forex คำว่า “Pip” คือหนึ่งในคำศัพท์แรกที่คุณจะพบเจอ และเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เพราะนี่คือพื้นฐานของการวัดผลกำไรและขาดทุนในการซื้อขาย หากไม่เข้าใจ Pip อย่างถ่องแท้ การวางแผนการเทรด การวิเคราะห์ตลาด หรือแม้แต่การบริหารความเสี่ยงก็จะกลายเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก

Pip เป็นคำย่อจาก “Percentage in Point” หรือบางที่อาจเรียกว่า “Price Interest Point” ซึ่งหมายถึงหน่วยที่เล็กที่สุดของการเปลี่ยนแปลงราคาในสินทรัพย์การเงิน โดยเฉพาะในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือ Forex นี่คือมาตรฐานที่นักเทรดทั่วโลกใช้ร่วมกันเพื่อสื่อสารว่าราคาของคู่เงินเคลื่อนไหวไปเท่าใด การเข้าใจ Pip จึงไม่ใช่แค่เรื่องเทคนิค แต่เป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้คุณสามารถคำนวณผลตอบแทน วิเคราะห์ความเสี่ยง และตัดสินใจเทรดได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Pip, Point และ Pipette แตกต่างกันอย่างไร?

ในกระบวนการเรียนรู้เรื่อง Pip มักจะพบกับคำศัพท์ที่คล้ายกันอย่าง Point และ Pipette ซึ่งอาจทำให้ผู้เริ่มต้นรู้สึกสับสนได้ อย่างไรก็ตาม ทั้งสามคำนี้มีความเชื่อมโยงกันอย่างชัดเจน และเมื่อเข้าใจแล้วจะทำให้คุณมองเห็นภาพรวมของราคาในระดับละเอียดมากขึ้น

• Pip: คือหน่วยหลักที่ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงราคา โดยทั่วไป สำหรับคู่เงินที่ไม่เกี่ยวข้องกับเยน เช่น EUR/USD หรือ GBP/USD Pip จะอยู่ที่ตำแหน่งทศนิยมที่ 4 ส่วนคู่เงินที่มี JPY เป็นสกุลเงินที่สอง เช่น USD/JPY จะใช้ทศนิยมตำแหน่งที่ 2 เป็นหน่วย Pip
• Point: เป็นหน่วยย่อยของ Pip โดย 1 Pip เท่ากับ 10 Points นักเทรดมักใช้คำว่า “จุด” เมื่อต้องการพูดถึงการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ ที่ละเอียดกว่า Pip เพื่อความแม่นยำในระดับสูง เช่น การเคลื่อนไหว 30 Points คือ 3 Pips
• Pipette: หรือที่รู้จักในชื่อ Fractional Pip คือหน่วยที่เล็กที่สุดในระบบราคา สำหรับคู่เงินทั่วไป Pipette คือทศนิยมตำแหน่งที่ 5 และสำหรับคู่เงิน JPY จะเป็นตำแหน่งที่ 3 โบรกเกอร์ส่วนใหญ่แสดงราคาในรูปแบบ 5 หรือ 3 ตำแหน่งทศนิยมเพื่อให้มองเห็นการเปลี่ยนแปลงของราคาได้ละเอียดยิ่งขึ้น

ตัวอย่างเช่น หากคุณเห็นราคา EUR/USD ที่ 1.07525 ตัวเลข “2” คือตำแหน่งของ Pip ส่วน “5” ที่อยู่ท้ายสุดคือ Pipette หรือ Point นั่นเอง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าราคาเคลื่อนที่ไป 0.5 Pip หรือ 5 Points

วิธีคำนวณมูลค่า Pip สำหรับคู่เงิน Forex

มูลค่าของ 1 Pip ไม่ได้คงที่ แต่จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น คู่เงินที่คุณเทรด อัตราแลกเปลี่ยน ณ เวลานั้น และขนาดของ Lot ที่คุณใช้ในการเปิดออเดอร์ การเข้าใจวิธีคำนวณจะช่วยให้คุณรู้ว่า ถ้าราคาเคลื่อนไหวไป 1 Pip คุณจะได้กำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ในหน่วยเงินจริง

กรณีคู่เงินที่มีทศนิยม 4 ตำแหน่ง (เช่น EUR/USD, GBP/USD)

สำหรับคู่เงินที่ไม่มีเยนเป็นสกุลเงินที่สอง โดยทั่วไปจะใช้ทศนิยม 4 ตำแหน่ง ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงที่ตำแหน่งที่ 4 จึงเท่ากับ 1 Pip การคำนวณมูลค่า Pip ในกรณีนี้ใช้สูตรดังนี้

สูตร: มูลค่า Pip = (0.0001 / อัตราแลกเปลี่ยน) × ขนาดสัญญา

ตัวอย่าง: คุณเปิดออเดอร์ EUR/USD ที่ราคา 1.0800 โดยใช้ 1 Standard Lot (100,000 หน่วย)

• มูลค่า Pip = (0.0001 / 1.0800) × 100,000
• มูลค่า Pip = 0.00009259 × 100,000
• มูลค่า Pip ≈ 9.26 EUR

อย่างไรก็ตาม หากคุณเทรดคู่เงินที่มี USD เป็นสกุลเงินที่สอง เช่น EUR/USD หรือ GBP/USD มูลค่าของ 1 Pip สำหรับ 1 Standard Lot จะเท่ากับ 10 ดอลลาร์สหรัฐเสมอ ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในการจำและใช้งานอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจเร็ว

กรณีคู่เงินที่มี JPY และมีทศนิยม 2 ตำแหน่ง (เช่น USD/JPY)

เนื่องจากระดับมูลค่าของเยนต่ำกว่าสกุลเงินหลักอื่น ๆ คู่เงินที่มี JPY จะแสดงผลในรูปทศนิยม 2 ตำแหน่งเท่านั้น เช่น USD/JPY ที่ 157.50 ดังนั้นการคำนวณ Pip จะใช้ค่า 0.01 แทน 0.0001

สูตร: มูลค่า Pip = (0.01 / อัตราแลกเปลี่ยน) × ขนาดสัญญา

ตัวอย่าง: คุณเปิดออเดอร์ USD/JPY ที่ 157.50 ด้วยขนาด 1 Standard Lot

• มูลค่า Pip = (0.01 / 157.50) × 100,000
• มูลค่า Pip ≈ 6.35 USD

จะเห็นได้ว่ามูลค่า Pip ขึ้นอยู่กับคู่เงินและอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้การคำนวณที่แม่นยำจึงเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนการเทรด ผู้เทรดมืออาชีพมักใช้เครื่องมืออย่าง Babypips Pip Value Calculator เพื่อคำนวณอย่างรวดเร็วและเชื่อถือได้

การคำนวณ Pip สำหรับสินทรัพย์ยอดนิยม: ทองคำ (XAUUSD)

ทองคำ (XAUUSD) เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มนักเทรด แต่การนับ Pip ของทองคำมีความแตกต่างจากคู่เงิน Forex อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้มือใหม่หลายคนสับสน

ในการเทรดทองคำ ระบบการนับหน่วยจะอิงตามมูลค่าดอลลาร์โดยตรง ดังนี้:

• การเคลื่อนไหว $0.01 = 1 Point
• การเคลื่อนไหว $0.10 = 1 Pip
• การเคลื่อนไหว $1.00 = 10 Pips หรือ 100 Points

ตัวอย่างที่ 1: ราคาทองคำขยับจาก $2350.50 ไปที่ $2351.00 หมายความว่าราคาเพิ่มขึ้น $0.50 ซึ่งเท่ากับ 5 Pips หรือ 50 Points

ตัวอย่างที่ 2: หากคุณเปิดออเดอร์ Buy ที่ $2340.00 และตั้ง Take Profit ที่ $2350.00 คุณกำลังตั้งเป้ากำไรที่ 100 Pips หรือ 1,000 Points

ความเข้าใจเรื่องนี้จะช่วยให้คุณตั้ง Stop Loss และ Take Profit ได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะเมื่อเทรดกับโบรกเกอร์ที่ได้รับความไว้วางใจอย่าง Moneta Markets ซึ่งรองรับการเทรดทองคำในรูปแบบ XAUUSD พร้อมกับเครื่องมือวิเคราะห์ที่แม่นยำและการแสดงราคาในระดับ Pipette เพื่อให้คุณไม่พลาดทุกจังหวะของตลาด

จาก Pip สู่กำไร: วิธีคำนวณกำไร-ขาดทุนจริง

เมื่อรู้ว่า Pip คืออะไร และมีมูลค่าเท่าใดแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการนำข้อมูลนี้มาใช้คำนวณผลกำไรหรือขาดทุนที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งสามารถทำได้ด้วยสูตรง่าย ๆ

สูตรการคำนวณ: กำไร/ขาดทุน = จำนวน Pips × มูลค่าต่อ Pip

ตัวอย่างสถานการณ์:

คุณเปิดออเดอร์ Buy EUR/USD ที่ราคา 1.0750 ด้วยขนาด 1 Standard Lot และปิดที่ 1.0800

• จำนวน Pips ที่เคลื่อนที่: 1.0800 – 1.0750 = 0.0050 = 50 Pips
• มูลค่าต่อ Pip: $10 (สำหรับ 1 Standard Lot)
• กำไร: 50 × $10 = $500

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น ด้านล่างนี้คือตารางเปรียบเทียมมูลค่า 1 Pip สำหรับคู่เงิน EUR/USD ตามขนาด Lot ต่าง ๆ ที่ใช้กันทั่วไป

ทำไม Pip จึงมีความสำคัญต่อการเทรด?

การเข้าใจ Pip ไม่ใช่แค่เรื่องของหน่วยวัดราคา แต่คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณก้าวสู่การเป็นนักเทรดที่มีวินัยและประสบความสำเร็จในระยะยาว มีเหตุผลหลัก ๆ ดังนี้

1. เป็นมาตรฐานสากลในการสื่อสาร: ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในโลก การพูดว่า “EUR/USD ขึ้น 30 pips” ทุกคนในวงการจะเข้าใจตรงกันทันที ส่งผลให้การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น บทวิเคราะห์ หรือการเรียนรู้จากนักเทรดคนอื่นเป็นไปอย่างราบรื่น
2. เครื่องมือหลักในการบริหารความเสี่ยง: การตั้ง Stop Loss และ Take Profit ล้วนอิงจากจำนวน Pip ที่คุณยอมรับได้ เช่น การตั้ง Stop Loss ที่ 25 pips หมายถึงคุณยอมขาดทุนไม่เกิน 25 pips ต่อการเทรดหนึ่งครั้ง ซึ่งช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจลุกลามได้
3. ช่วยคำนวณขนาด Position Size ได้อย่างแม่นยำ: นักเทรดมืออาชีพจะคำนวณขนาดการเทรดโดยพิจารณาจากจำนวน Pip ที่อาจขาดทุน เช่น ถ้าคุณกำหนดความเสี่ยงต่อการเทรดที่ $100 และ Stop Loss อยู่ที่ 50 pips ก็สามารถคำนวณได้ว่าควรเปิด Lot เท่าไหร่เพื่อให้ความเสี่ยงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แนวทางนี้คือหัวใจสำคัญของ การบริหารความเสี่ยงทางการเงิน ที่ทำให้เทรดเดอร์ประสบความสำเร็จยั่งยืน

การใช้ Pip อย่างชำนาญจึงไม่ใช่แค่ความรู้เบื้องต้น แต่เป็นทักษะที่จำเป็นในการอยู่รอดในตลาดที่ผันผวนอย่างตลาด สกุลเงินทั่วโลก โดยเฉพาะกับโบรกเกอร์ที่ให้เครื่องมือครบครันอย่าง Moneta Markets ที่สนับสนุนการเทรดทั้ง Forex ทองคำ และสินทรัพย์อื่น ๆ พร้อมระบบแสดงผลราคาในระดับ Pipette เพื่อความแม่นยำสูงสุด

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)