
ซื้อหุ้นคืน คืออะไร? 5 สิ่งที่นักลงทุนต้องรู้ก่อนตัดสินใจ
1. ซื้อหุ้นคืน คืออะไร? ทำความเข้าใจพื้นฐาน
การซื้อหุ้นคืนเป็นกลยุทธ์ทางการเงินที่บริษัททั่วโลกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย มันมีบทบาทสำคัญและส่งผลต่อทั้งองค์กรและผู้ลงทุนในตลาดหุ้น การรู้จักพื้นฐานของเรื่องนี้จึงจำเป็นสำหรับคนที่สนใจเรื่องการเงินหรือการลงทุน

1.1 คำนิยามของการซื้อหุ้นคืน
การซื้อหุ้นคืนหมายถึงกระบวนการที่บริษัทนำเงินทุนส่วนตัวไปซื้อหุ้นของตัวเองกลับคืนจากตลาดหลักทรัพย์หรือโดยตรงจากผู้ถือหุ้น จากนั้นหุ้นเหล่านั้นจะกลายเป็นหุ้นที่บริษัทถือไว้เอง เรียกอีกชื่อว่าหุ้นทุนที่ซื้อคืน ซึ่งหุ้นประเภทนี้ไม่มีสิทธิ์โหวตและไม่ได้รับเงินปันผล แถมยังไม่นับรวมในการคำนวณกำไรต่อหุ้นในช่วงที่บริษัทยังถืออยู่

ต่างจากการออกหุ้นใหม่เพื่อหาเงินจากภายนอก การซื้อหุ้นคืนใช้เงินที่มีอยู่เพื่อลดปริมาณหุ้นที่ซื้อขายในตลาด ด้วยจุดประสงค์หลากหลายที่เราจะมาพูดถึงกันต่อไป
1.2 เหตุผลหลักที่บริษัทเลือกซื้อหุ้นคืน
บริษัทตัดสินใจซื้อหุ้นคืนด้วยเหตุผลหลายอย่าง โดยส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการจัดการโครงสร้างทุนและการเพิ่มมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น เช่น
- เพิ่มกำไรต่อหุ้น: เมื่อหุ้นที่หมุนเวียนลดลง แต่กำไรรวมของบริษัทเท่าเดิมหรือสูงขึ้น กำไรต่อหุ้นก็จะเพิ่มตาม ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่นักลงทุนให้ความสำคัญ และอาจช่วยให้ราคาหุ้นดีขึ้น
- แสดงความมั่นใจ: การซื้อหุ้นคืนบ่อยครั้งถูกมองว่าเป็นสัญญาณดี ว่าบริษัทเชื่อว่าหุ้นตัวเองราคาถูกกว่ามูลค่าจริง และมีโอกาสเติบโต ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ลงทุน
- จัดการเงินสดส่วนเกิน: ถ้าบริษัทมีเงินสดเหลือเฟือที่ไม่นำไปลงทุนโครงการผลตอบแทนสูง การซื้อหุ้นคืนก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการคืนเงินให้ผู้ถือหุ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
- ป้องกันการถูกเข้าครอบครอง: การลดหุ้นที่หมุนเวียนช่วยให้ผู้ถือหุ้นเดิมมีสัดส่วนมากขึ้น ซึ่งอาจขัดขวางการเข้าซื้อกิจการแบบไม่เป็นมิตรจากภายนอก
- ปรับโครงสร้างทุน: บริษัทอาจต้องการปรับสมดุลระหว่างหนี้และทุนให้เหมาะสม โดยการซื้อหุ้นคืนจะลดส่วนของผู้ถือหุ้นและเพิ่มสัดส่วนหนี้ในงบการเงิน
- สนับสนุนแผนพนักงาน: หุ้นที่ซื้อคืนอาจนำไปใช้ในโครงการหุ้นสำหรับพนักงานหรือรางวัลให้ผู้บริหารในอนาคต

2. ผลกระทบของการซื้อหุ้นคืน: ใครได้ใครเสีย?
กลยุทธ์การซื้อหุ้นคืนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ส่งผลต่อหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นราคาหุ้น สภาพคล่อง ผู้ถือหุ้น หรือโครงสร้างการเงินของบริษัท การเข้าใจผลกระทบเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ลงทุนและผู้บริหารตัดสินใจได้ดีขึ้น
2.1 ผลกระทบต่อราคาหุ้นและสภาพคล่อง
ปกติแล้ว เมื่อบริษัทประกาศซื้อหุ้นคืน ราคาหุ้นมักปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น เพราะตลาดมองว่าเป็นข่าวดี และหุ้นที่เหลือมีอุปสงค์สูงขึ้น แต่ในระยะยาว ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับพื้นฐานบริษัทและสภาพตลาดโดยรวม
นอกจากนี้ การซื้อหุ้นคืนยังกระทบสภาพคล่องของหุ้น เมื่อหุ้นที่ซื้อขายลดลง สภาพคล่องก็ลดตาม ซึ่งอาจทำให้ซื้อขายปริมาณใหญ่ยากขึ้น หรือราคาผันผวนมากกว่าในบางกรณี
2.2 ผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นและนักลงทุน
สำหรับผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้น การซื้อหุ้นคืนมีทั้งประโยชน์และความเสี่ยง
ประโยชน์:
- มูลค่าหุ้นสูงขึ้น: ถ้าราคาหุ้นเพิ่ม ผู้ถือหุ้นที่ยังถือต่อจะได้กำไรจากส่วนต่างราคา
- สัดส่วนถือหุ้นเพิ่ม: ผู้ถือหุ้นเดิมจะมีสัดส่วนมากขึ้นโดยอัตโนมัติ เพิ่มอำนาจโหวตและการควบคุม
- กำไรต่อหุ้นดีขึ้น: กำไรต่อหุ้นที่สูงขึ้นทำให้บริษัทดูน่าลงทุนมากกว่าในสายตานักวิเคราะห์
ข้อเสีย:
- พลาดโอกาสลงทุนอื่น: เงินที่ใช้ซื้อหุ้นคืนอาจนำไปลงทุนโครงการใหม่ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าในระยะยาว
- ขายหุ้นในราคาต่ำ: ผู้ที่ขายหุ้นคืนอาจเสียโอกาสกำไรถ้าราคาหุ้นขึ้นในภายหลัง
2.3 ผลกระทบต่อโครงสร้างการเงินของบริษัท
การซื้อหุ้นคืนส่งผลตรงต่องบการเงินของบริษัท โดยเฉพาะส่วนของผู้ถือหุ้นและอัตราส่วนทางการเงิน
- ลดส่วนของผู้ถือหุ้น: เงินที่ใช้ซื้อจะหักจากเงินสดและบันทึกเป็นการลดส่วนของผู้ถือหุ้น
- เปลี่ยนอัตราส่วนทางการเงิน: อัตราส่วนหนี้ต่อทุนอาจสูงขึ้นเพราะส่วนทุนลดลง ในขณะที่ผลตอบแทนต่อส่วนทุนอาจดีขึ้นเพราะกำไรหารด้วยฐานที่เล็กลง
- ลดเงินสด: การใช้เงินสดจำนวนมากอาจกระทบความสามารถในการลงทุน จ่ายปันผล หรือชำระหนี้ ถ้าจัดการไม่ดี
3. กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการซื้อหุ้นคืนในประเทศไทย
ในไทย การซื้อหุ้นคืนถูกควบคุมอย่างเข้มงวดโดยกฎหมายและหน่วยงาน เพื่อความเป็นธรรมและโปร่งใส โดยเฉพาะบริษัทจำกัดและบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
3.1 ภาพรวมกฎหมายการซื้อหุ้นคืนสำหรับบริษัทจำกัด
สำหรับบริษัทจำกัดที่ไม่ได้จดทะเบียน การซื้อหุ้นคืนอยู่ภายใต้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวมถึงกฎกระทรวงว่าด้วยการซื้อหุ้นคืนหุ้นของบริษัทจำกัด พ.ศ. 2544 ซึ่งปรับใช้จากพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535
ข้อกำหนดสำคัญ ได้แก่
- ต้องมีมติพิเศษจากผู้ถือหุ้น: ต้องได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 จากผู้ถือหุ้นที่มาร่วมประชุมและมีสิทธิ์โหวต
- เงื่อนไขการซื้อ: กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กำหนดว่าบริษัทต้องมีกำไรสะสมและสภาพคล่องพอ โดยไม่กระทบการเงินหรือการดำเนินงาน
- จำกัดจำนวนหุ้น: หุ้นที่ซื้อคืนไม่เกิน 10% ของหุ้นที่ออกทั้งหมดตามปกติ
- จัดการหุ้นที่ซื้อคืน: ต้องนำไปลดทุนหรือขายต่อภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด มิฉะนั้นต้องลดทุนแบบอื่น
3.2 ข้อกำหนดเฉพาะสำหรับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีกฎเพิ่มเติมเพื่อปกป้องผู้ลงทุนรายย่อยและความโปร่งใส โดยกำกับโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์เอง ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำหนดระเบียบที่ครอบคลุม
- เปิดเผยข้อมูล: ต้องแจ้งวัตถุประสงค์ แผนการ จำนวนเงินสูงสุด ระยะเวลา และผลกระทบอย่างละเอียดและทันที
- วิธีการซื้อ: กำหนดชัดเจน เช่น ซื้อในตลาดหรือเสนอซื้อจากผู้ถือหุ้น
- ราคาซื้อ: มีข้อจำกัดเพื่อป้องกันการปั่นราคาหรือใช้ข้อมูลภายใน
- ระยะเวลา: กำหนดช่วงซื้อและจัดการหุ้นที่ซื้อคืน
- รายงานผล: ต้องรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์อย่างสม่ำเสมอ
3.3 บทบาทของคณะกรรมการบริษัทและผู้ถือหุ้น
การตัดสินใจซื้อหุ้นคืนสำคัญมากและเชื่อมโยงกับธรรมาภิบาลโดยตรง
- คณะกรรมการบริษัท: ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงความเหมาะสม ความจำเป็น และผลกระทบ โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้น ด้วยข้อมูลครบถ้วนและความซื่อสัตย์
- การประชุมผู้ถือหุ้น: มีบทบาทอนุมัติ โดยเฉพาะมติพิเศษสำหรับบริษัทจำกัด ซึ่งช่วยให้ผู้ถือหุ้นแสดงความเห็นและยืนยันความโปร่งใส
4. ข้อควรพิจารณาและกลยุทธ์สำหรับบริษัทไทย
สำหรับบริษัทในไทย การซื้อหุ้นคืนต้องคิดให้รอบคอบ โดยดูปัจจัยภายในภายนอกและวางแผนกลยุทธ์ เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทและผู้ถือหุ้น
4.1 ประเมินความเหมาะสมของการซื้อหุ้นคืน
ก่อนตัดสินใจ บริษัทควรตรวจสอบสถานการณ์ตัวเองอย่างละเอียด
- สภาพคล่องและกระแสเงินสด: มีเงินสดส่วนเกินพอสำหรับซื้อโดยไม่กระทบการดำเนินงาน ลงทุนอนาคต หรือชำระหนี้หรือไม่ ควรทำตอนฐานะการเงินแข็งแรง
- โอกาสลงทุนอื่น: มีโครงการใหม่ที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าหรือไม่ ถ้ามีอาจสำคัญกว่า
- มูลค่าหุ้นจริง: คณะกรรมการเชื่อว่าหุ้นราคาต่ำกว่ามูลค่าจริงหรือไม่ การซื้อตอนราคาต่ำมักสร้างมูลค่าเพิ่มมาก
- หนี้และโครงสร้างทุน: จะกระทบอัตราส่วนหนี้ต่อทุนอย่างไร ต้องรักษาสมดุลที่ยั่งยืน
- ผลต่อผู้ลงทุน: จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์อย่างไร
4.2 ขั้นตอนการดำเนินการซื้อหุ้นคืนสำหรับบริษัทจำกัดและบริษัทจดทะเบียน
ขั้นตอนแตกต่างกันระหว่างบริษัทจำกัดและบริษัทจดทะเบียน
สำหรับบริษัทจำกัด:
- พิจารณาของคณะกรรมการ: คณะกรรมการพิจารณาแผน
- มติผู้ถือหุ้น: จัดประชุมเพื่อมติพิเศษ คะแนนไม่น้อยกว่า 3 ใน 4
- แจ้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้า: แจ้งภายในเวลาที่กำหนดพร้อมเอกสาร
- ดำเนินการซื้อ: ซื้อตามแผนที่อนุมัติ
- จัดการหุ้น: ลดทุนหรือขายต่อภายในเวลากฎหมาย
สำหรับบริษัทจดทะเบียน:
- พิจารณาของคณะกรรมการ: พิจารณาและกำหนดรายละเอียด
- มติคณะกรรมการ: อนุมัติโครงการ
- เปิดเผยข้อมูล: แจ้งตลาดหลักทรัพย์และสาธารณะตาม ก.ล.ต. และตลาด
- ดำเนินการซื้อ: ซื้อผ่านระบบตลาดหรือวิธีที่อนุญาต ตามเงื่อนไข
- รายงานผล: รายงานต่อตลาดเป็นประจำ
- จัดการหุ้น: ขายหรือลดทุนภายใน 3 ปีจากวันที่ซื้อครบ
4.3 กรณีศึกษาบริษัทไทยที่ประสบความสำเร็จ/ล้มเหลวในการซื้อหุ้นคืน
บริษัทไทยหลายแห่งใช้การซื้อหุ้นคืน โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และค้าปลีก ซึ่งมักประกาศตอนราคาหุ้นถูกกดหรือมีกำไรสะสมและเงินสดเหลือมาก
- กรณีสำเร็จ: บริษัทที่ซื้อตอนราคาต่ำและพื้นฐานดี มักเห็นราคาหุ้นฟื้นและขึ้นมาก ช่วยให้ผู้ลงทุนได้ผลตอบแทนดีและกำไรต่อหุ้นสูงขึ้น เช่น บริษัทที่ปรับตัวดีหลังวิกฤตเศรษฐกิจ
- กรณีล้มเหลว: ถ้าซื้อตอนราคาสูงหรือผลประกอบการแย่ อาจไม่ช่วยราคาในระยะยาว และเสียเงินสดที่จำเป็นสำหรับอนาคต
ดังนั้น การเลือกจังหวะและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนจึงสำคัญยิ่ง
5. มุมมองนักลงทุน: ควรรับมือกับการซื้อหุ้นคืนอย่างไร?
ในฐานะผู้ลงทุน การเข้าใจว่าการซื้อหุ้นคืนของบริษัทที่ถืออยู่หมายถึงอะไร และควรทำอย่างไร จะช่วยจัดการพอร์ตการลงทุนได้ดี
5.1 สัญญาณบ่งชี้และวัตถุประสงค์ที่แท้จริง
เมื่อบริษัทประกาศ ผู้ลงทุนควรดูสัญญาณและจุดประสงค์เบื้องหลัง
- ราคาหุ้นปัจจุบัน: ซื้อตอนราคาต่ำหรือสูง การซื้อตอนต่ำมักเป็นสัญญาณดี
- ผลประกอบการ: บริษัทมีผลงานดี กระแสเงินสดแข็งแกร่ง กำไรสะสมมาก หรือกำลังแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้
- ทางเลือกลงทุน: มีโอกาสใหม่ที่ผลตอบแทนสูงหรือไม่ ถ้าไม่มี การซื้อหุ้นคืนอาจดี แต่ถ้ามีอาจพลาดโอกาส
- ประวัติ: เคยซื้อมาก่อนและผลเป็นอย่างไร
5.2 การวิเคราะห์ผลกระทบต่อพอร์ตโฟลิโอของคุณ
การซื้อหุ้นคืนอาจกระทบพอร์ตหลายด้าน
- สัดส่วนถือหุ้น: ถ้าไม่ขาย สัดส่วนจะเพิ่ม อำนาจโหวตมากขึ้น
- มูลค่าหุ้น: ถ้าราคาขึ้นได้กำไร แต่ถ้าไม่ มูลค่าพอร์ตอาจไม่เปลี่ยน
- กระจายความเสี่ยง: เงินสดลดอาจเพิ่มความเสี่ยงระยะยาวถ้าบริษัทลงทุนอนาคตน้อยลง
- เทียบกับปันผล: พิจารณาว่าปันผลอาจดีกว่าหรือไม่ การซื้อหุ้นคืนเหมาะกับคนอยากได้กำไรทุน ขณะที่ปันผลให้กระแสเงินสด
5.3 ข้อควรระวังและความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องรู้
ผู้ลงทุนต้องระวังความเสี่ยง
- ซื้อในราคาสูง: อาจใช้เงินผู้ถือหุ้นไม่คุ้ม และไม่สร้างมูลค่า
- ผลระยะสั้น: อาจกระตุ้นราคาชั่วคราว แต่ถ้าพื้นฐานไม่ดี ราคาอาจตก
- ลดเงินสด: อาจทำให้รับมือวิกฤตหรือโอกาสใหม่ยาก
- ไม่โปร่งใส: บางครั้งใช้เพิ่มกำไรต่อหุ้นเพื่อให้งบดูดี โดยไม่ปรับปรุงจริง
ผู้ลงทุนควรวิเคราะห์รอบด้าน ไม่ใช่แค่ประกาศ แต่ดูสุขภาพการเงิน แนวโน้มอุตสาหกรรม และการบริหารของคณะกรรมการด้วย
สรุป: การซื้อหุ้นคืน กลยุทธ์สองคมที่ต้องเข้าใจ
การซื้อหุ้นคืนเป็นกลยุทธ์ซับซ้อน คล้ายดาบสองคมสำหรับบริษัทและผู้ลงทุนในไทย มันช่วยส่งสัญญาณมั่นใจ เพิ่มกำไรต่อหุ้น และคืนมูลค่า แต่มีความเสี่ยงถ้าทำไม่รอบคอบหรือไม่ตรงสถานะจริง
สำหรับบริษัท ต้องประเมินกระแสเงินสด โครงสร้างทุน และโอกาสอื่น โดยปฏิบัติตามกฎหมายไทยอย่างเคร่งครัด ทั้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าสำหรับบริษัทจำกัด และตลาดหลักทรัพย์สำหรับบริษัทจดทะเบียน เพื่อโปร่งใสและธรรมาภิบาล
จากมุมผู้ลงทุน การเข้าใจวัตถุประสงค์จริงและผลต่อพอร์ตสำคัญ การซื้อหุ้นคืนไม่ใช่ยาวิเศษเสมอ ต้องระวังความเสี่ยง เช่น ซื้อราคาสูงหรือเงินสดลดกระทบอนาคต
สรุปแล้ว มันเป็นเครื่องมือดีถ้าใช้ถูกเวลาและเหตุผล แต่เข้าใจประโยชน์ ความเสี่ยง และกฎหมายไทยคือกุญแจสู่การตัดสินใจทางการเงินที่ฉลาด
บริษัทจำกัดสามารถซื้อหุ้นคืนได้หรือไม่?
ได้ บริษัทจำกัดสามารถซื้อหุ้นคืนได้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และที่สำคัญคือ “กฎกระทรวง การซื้อหุ้นคืน” หุ้นของบริษัทจำกัด พ.ศ. 2544 ซึ่งกำหนดให้ต้องได้รับมติพิเศษจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น และบริษัทต้องมีกำไรสะสมและสภาพคล่องเพียงพอ
การซื้อหุ้นคืนมีผลดีต่อราคาหุ้นเสมอไปหรือไม่?
ไม่เสมอไป แม้ว่าโดยทั่วไปแล้ว การประกาศซื้อหุ้นคืนมักจะส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นในระยะสั้น แต่ผลกระทบในระยะยาวนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท สภาวะตลาด และวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการซื้อคืน หากบริษัทซื้อหุ้นคืนในราคาสูง หรือมีผลประกอบการไม่ดี ราคาหุ้นอาจไม่ตอบสนองหรืออาจปรับตัวลดลงได้ในภายหลัง
หากบริษัทซื้อหุ้นคืน ผู้ถือหุ้นรายย่อยควรทำอย่างไร?
ผู้ถือหุ้นรายย่อยควรพิจารณาดังนี้:
- **วิเคราะห์เหตุผล:** ทำความเข้าใจว่าทำไมบริษัทถึงซื้อหุ้นคืน และสถานะทางการเงินของบริษัทเป็นอย่างไร
- **ประเมินมูลค่าหุ้น:** พิจารณาว่าราคาหุ้นในปัจจุบันต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงหรือไม่
- **ตัดสินใจขายหรือไม่:** หากเชื่อว่าราคาหุ้นจะสูงขึ้นอีกในอนาคต การถือหุ้นต่ออาจให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า แต่หากต้องการใช้เงินหรือเชื่อว่าบริษัทซื้อในราคาสูงไปแล้ว การขายหุ้นคืนก็เป็นทางเลือกหนึ่ง
- **ติดตามข่าวสาร:** ติดตามข้อมูลและผลการดำเนินการซื้อหุ้นคืนของบริษัทอย่างใกล้ชิด
ซื้อหุ้นคืน 2566 มีกฎเกณฑ์ต่างจากปีก่อนหรือไม่?
กฎเกณฑ์หลักสำหรับการซื้อหุ้นคืนในประเทศไทยสำหรับทั้งบริษัทจำกัดและบริษัทจดทะเบียนยังคงอ้างอิงตามกฎหมายและระเบียบเดิมเป็นหลัก อย่างไรก็ตาม อาจมีการปรับปรุงแก้ไขรายละเอียดปลีกย่อย หรือการตีความจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD)” หรือ “ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)” เป็นครั้งคราว ผู้ที่เกี่ยวข้องควรตรวจสอบประกาศและระเบียบที่อัปเดตล่าสุดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่เสมอ
บริษัทที่ซื้อหุ้นคืนแล้วต้องทำอย่างไรกับหุ้นที่ซื้อมา?
บริษัทที่ซื้อหุ้นคืนมาแล้วมีหน้าที่ต้องจัดการกับหุ้นเหล่านั้นภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยมีสองทางเลือกหลักคือ:
- **ลดทุนจดทะเบียน:** บริษัทสามารถนำหุ้นที่ซื้อคืนมาไปลดทุนจดทะเบียน โดยการตัดหุ้นเหล่านั้นออกจากระบบ
- **จำหน่ายออก:** บริษัทสามารถนำหุ้นที่ซื้อคืนมาจำหน่ายออกไปให้กับผู้ถือหุ้นรายอื่น หรือบุคคลทั่วไปในตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง
หากไม่ดำเนินการภายในกำหนด อาจต้องลดทุนโดยวิธีอื่นตามที่กฎหมายกำหนด
การซื้อหุ้นคืนต่างจากการจ่ายเงินปันผลอย่างไร?
ทั้งการซื้อหุ้นคืนและการจ่ายเงินปันผลเป็นการคืนเงินสดให้กับผู้ถือหุ้น แต่มีความแตกต่างกันดังนี้:
- **เงินปันผล:** เป็นการจ่ายเงินสดโดยตรงให้กับผู้ถือหุ้นทุกคนตามสัดส่วนการถือหุ้น ทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับกระแสเงินสด แต่จำนวนหุ้นที่หมุนเวียนยังคงเดิม
- **ซื้อหุ้นคืน:** เป็นการที่บริษัทซื้อหุ้นคืนจากตลาด ซึ่งจะลดจำนวนหุ้นที่หมุนเวียนลง ทำให้ “กำไรต่อหุ้น (EPS)” และสัดส่วนการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นที่เหลืออยู่เพิ่มขึ้น โดยผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินคืนก็ต่อเมื่อเลือกขายหุ้นคืนให้กับบริษัท
การซื้อหุ้นคืนมักเป็นที่นิยมในบริษัทที่เชื่อว่าหุ้นของตนมีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง ในขณะที่เงินปันผลเหมาะสำหรับบริษัทที่ต้องการสร้างกระแสรายได้สม่ำเสมอให้กับนักลงทุน
มีตัวอย่างบริษัทไทยใดบ้างที่เคยซื้อหุ้นคืน?
ในประเทศไทยมีบริษัทจดทะเบียนจำนวนมากที่เคยประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน ตัวอย่างเช่น บริษัทในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่, บริษัทพลังงาน, หรือบริษัทค้าปลีกขนาดใหญ่ มักจะมีการประกาศซื้อหุ้นคืนเป็นระยะๆ เพื่อบริหารสภาพคล่องและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในช่วงเวลาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ข้อมูลโครงการซื้อหุ้นคืนของแต่ละบริษัทสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ของ “ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)” หรือรายงานข่าวของสื่อเศรษฐกิจการลงทุนต่างๆ เช่น ไทยรัฐ: ซื้อหุ้นคืน ตัวเร่งราคาหุ้น เพื่อดูข้อมูลล่าสุดและผลการดำเนินการ
การซื้อหุ้นคืนมีผลต่อภาษีของบริษัทและผู้ถือหุ้นในประเทศไทยอย่างไร?
สำหรับบริษัท:
- เงินที่ใช้ในการซื้อหุ้นคืนถือเป็นการลดเงินสดของบริษัท ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่นำมาหักภาษีได้
- หากมีการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนออกไปในภายหลัง และมีกำไรจากการจำหน่าย หุ้นดังกล่าวจะถือเป็นรายได้ของบริษัทและต้องเสียภาษีนิติบุคคล
สำหรับผู้ถือหุ้น:
- หากผู้ถือหุ้นขายหุ้นคืนให้กับบริษัท และได้รับกำไรจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) กำไรดังกล่าวอาจต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตราที่กำหนดตามประมวลรัษฎากร
- ในกรณีของบริษัทจดทะเบียนใน “ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)” กำไรจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยทั่วไปจะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ควรตรวจสอบข้อกำหนดและเงื่อนไขทางภาษีที่เกี่ยวข้องกับสถานะของนักลงทุนอีกครั้ง
ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและครบถ้วน
發佈留言
很抱歉,必須登入網站才能發佈留言。