
ตราสารทุน คืออะไร? รู้จักแหล่งลงทุนที่สร้างความมั่งคั่งระยะยาว
ตราสารทุน คืออะไร? คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับนักลงทุนไทย

ตราสารทุนคือหลักทรัพย์ที่แสดงถึงส่วนแบ่งการเป็นเจ้าของในบริษัท เมื่อคุณถือตราสารทุน คุณกลายเป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง ซึ่งหมายถึงสิทธิ์ในการรับส่วนแบ่งกำไรและมีส่วนร่วมในการตัดสินใจสำคัญของธุรกิจนั้นๆ ลองนึกภาพว่าคุณกำลังลงทุนในร้านก๋วยเตี๊ยวโปรด ถ้าธุรกิจเติบโต คุณก็ได้ส่วนแบ่งจากความสำเร็จนั้น สำหรับนักลงทุนไทย คู่มือนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจพื้นฐานตั้งแต่เริ่มต้น ว่าทำไมตราสารทุนถึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างพอร์ตการลงทุนที่มั่นคง โดยเฉพาะในตลาดที่เต็มไปด้วยโอกาสอย่างตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ความแตกต่างระหว่างตราสารทุนและตราสารหนี้

ตราสารทุนแตกต่างจากตราสารหนี้ตรงที่มันไม่ใช่การกู้ยืมเงิน แต่เป็นการซื้อส่วนแบ่งในบริษัท ผู้ถือตราสารทุนรับความเสี่ยงสูงกว่า แต่ก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากกว่าในระยะยาว ในขณะที่ตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร ให้ผลตอบแทนคงที่และคืนเงินต้นตามกำหนด คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนเลือกถือหุ้นแทนการฝากธนาคาร? เพราะตราสารทุนเชื่อมโยงโดยตรงกับการเติบโตของเศรษฐกิจ หากบริษัททำกำไรได้มาก คุณก็ได้ประโยชน์ แต่ถ้าธุรกิจล้มเหลว คุณอาจสูญเสียเงินลงทุน ต่างจากตราสารหนี้ที่บริษัทต้องจ่ายดอกเบี้ยไม่ว่าธุรกิจจะเป็นอย่างไร
ประเภทของตราสารทุนที่นักลงทุนควรรู้จัก

นักลงทุนไทยควรรู้จักประเภทหลักๆ ของตราสารทุนเพื่อเลือกให้เหมาะกับเป้าหมาย หุ้นสามัญเป็นรูปแบบที่พบบ่อยที่สุด ให้สิทธิ์โหวตในการประชุมผู้ถือหุ้นและรับเงินปันผลตามผลประกอบการ แต่เสี่ยงต่อการสูญเสียหากบริษัทขาดทุน หุ้นบุริมสิทธิ์ต่างออกไป มันให้สิทธิ์รับเงินปันผลคงที่ก่อนหุ้นสามัญ และในกรณีล้มละลาย ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ์จะได้ชำระหนี้ก่อน แต่แลกกับสิทธิ์โหวตที่น้อยลง นอกจากนี้ ยังมีตราสารทุนรูปแบบอื่นๆ เช่น หุ้นกู้ที่คล้ายตราสารหนี้แต่ยังคงเป็นส่วนแบ่งเจ้าของ ลองพิจารณาว่าประเภทไหนที่เข้ากับสไตล์การลงทุนของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเติบโตระยะยาวหรือรายได้สม่ำเสมอ
ข้อดีและข้อเสียของการลงทุนในตราสารทุน
การลงทุนในตราสารทุนมีข้อดีที่ชัดเจน เช่น โอกาสเติบโตสูงจากกำไรส่วนต่างราคาและเงินปันผล ซึ่งในตลาดไทยอย่าง SET มักให้ผลตอบแทนเฉลี่ยดีกว่าอัตราดอกเบี้ยธนาคาร มันช่วยให้พอร์ตของคุณขยายตัวตามเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวหลังโควิด แต่ก็มีข้อเสียที่ต้องระวัง ความผันผวนของราคาอาจทำให้ขาดทุนชั่วคราว โดยเฉพาะจากปัจจัยภายนอกอย่างการเมืองหรืออัตราแลกเปลี่ยน นักลงทุนบางคนเคยเห็นพอร์ตหดตัว 20-30% ในช่วงวิกฤต แต่ผู้ที่อดทนมักได้เห็นการฟื้นตัว คุณพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนนี้หรือยัง? สรุปแล้ว ข้อดีเหนือข้อเสียหากคุณกระจายความเสี่ยงและถือยาว
ตราสารทุนกับการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว
ตราสารทุนเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความมั่งคั่งสำหรับคนไทยที่วางแผนเกษียณหรือส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัย โดยอาศัยหลักการทบต้นที่ทำงานเมื่อคุณลงทุนต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น หากคุณเริ่มลงทุน 10,000 บาทต่อเดือนในกองทุนตราสารทุน ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ย 7-8% ต่อปี ในอีก 20 ปี พอร์ตของคุณอาจโตเป็นหลักล้าน ทำไมถึงเหมาะกับระยะยาว? เพราะตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มขึ้นตามการเติบโตของ GDP และนโยบายรัฐที่สนับสนุนธุรกิจ แต่จำไว้ว่าความมั่งคั่งนี้มาจากวินัย ไม่ใช่การเก็งกำไรระยะสั้น ลองคิดถึงครอบครัวคุณในอีกทศวรรษข้างหน้า ตราสารทุนช่วยให้ความฝันนั้นเป็นจริงได้ หากคุณเริ่มต้นวันนี้
ตราสารทุน กับ หุ้น อันเดียวกันไหม?
โดยทั่วไปแล้วตราสารทุนเป็นคำที่กว้างกว่าหุ้น ในความหมายของตราสารทุนจะหมายถึงหลักทรัพย์ที่แสดงถึงสิทธิความเป็นเจ้าของในบริษัทนั้นๆ ซึ่งหุ้นสามัญถือเป็นตราสารทุนประเภทที่พบได้บ่อยที่สุดและเป็นที่นิยมในการลงทุน แต่ก็อาจมีตราสารทุนประเภทอื่นๆ อีก เช่นหุ้นบุริมสิทธิ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะบางประการที่แตกต่างจากหุ้นสามัญ
ลงทุนในตราสารทุนมีความเสี่ยงอย่างไรบ้าง?
การลงทุนในตราสารทุนมีความเสี่ยงหลายประการที่นักลงทุนควรรู้ ได้แก่:
- ความเสี่ยงด้านตลาด (Market Risk): ราคาของตราสารทุนอาจผันผวนตามสภาวะเศรษฐกิจ การเมือง หรือปัจจัยภายนอกอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นโดยรวม
- ความเสี่ยงของบริษัท (Company-Specific Risk): ผลการดำเนินงานของบริษัทที่ออกตราสารทุนนั้นๆ อาจไม่เป็นไปตามคาดการณ์ ส่งผลให้ราคาตราสารทุนปรับตัวลดลง
- ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง (Liquidity Risk): ในบางกรณี ตราสารทุนบางประเภทอาจมีสภาพคล่องต่ำ ทำให้นักลงทุนไม่สามารถซื้อขายได้ตามที่ต้องการ หรือต้องขายในราคาที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น
- ความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย (Interest Rate Risk): การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยอาจส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจลงทุนในตราสารทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับตราสารหนี้
การทำความเข้าใจความเสี่ยงเหล่านี้และมีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
ผลตอบแทนจากตราสารทุนมีอะไรบ้าง?
ผลตอบแทนหลักๆ ที่นักลงทุนจะได้รับจากการลงทุนในตราสารทุนมี 2 รูปแบบ คือ:
- กำไรส่วนต่างของราคา (Capital Gain): เกิดจากการขายตราสารทุนในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อมา
- เงินปันผล (Dividends): คือส่วนแบ่งกำไรที่บริษัทประกาศจ่ายให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งจะจ่ายเป็นเงินสดหรือหุ้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัท
ผลตอบแทนเหล่านี้มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องและการเลือกบริษัทที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี
วิธีเริ่มต้นลงทุนในตราสารทุนสำหรับมือใหม่?
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ การเริ่มต้นลงทุนในตราสารทุนสามารถทำได้ดังนี้:
- ศึกษาหาความรู้: ทำความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับตราสารทุน ประเภทต่างๆ และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง
- ตั้งเป้าหมายการลงทุน: กำหนดวัตถุประสงค์ทางการเงิน ระยะเวลาลงทุน และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
- เปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์: ติดต่อบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ที่น่าเชื่อถือเพื่อเปิดบัญชี
- เริ่มต้นด้วยจำนวนเงินน้อยๆ: ทดลองลงทุนด้วยเงินจำนวนไม่มาก เพื่อเรียนรู้กระบวนการและทำความเข้าใจตลาด
- กระจายความเสี่ยง: ไม่ควรนำเงินทั้งหมดไปลงทุนในตราสารทุนเพียงตัวเดียว
- พิจารณาลงทุนในกองทุนรวม: สำหรับผู้เริ่มต้น กองทุนรวมตราสารทุนเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยในการกระจายความเสี่ยงและมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพคอยบริหารจัดการ
การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนก็เป็นอีกแนวทางที่ดีในการเริ่มต้น
ตราสารทุนสามารถซื้อขายได้ที่ไหนในประเทศไทย?
ในประเทศไทย ตราสารทุนส่วนใหญ่สามารถซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) โดยนักลงทุนต้องทำการซื้อขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
โบรกเกอร์จะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการส่งคำสั่งซื้อขายให้กับนักลงทุน และให้บริการข้อมูล รวมถึงเครื่องมือวิเคราะห์ต่างๆ นอกจากนี้ นักลงทุนยังสามารถลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารทุน ซึ่งบริหารจัดการโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน
การลงทุนในตราสารทุนต้องเสียภาษีอย่างไร?
สำหรับนักลงทุนบุคคลธรรมดาในประเทศไทย การเสียภาษีจากการลงทุนในตราสารทุนมีรายละเอียดดังนี้:
- กำไรจากการขายหลักทรัพย์ (Capital Gain): โดยทั่วไปแล้ว กำไรจากการขายหุ้นที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของบุคคลธรรมดาได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้
- เงินปันผล (Dividends): นักลงทุนบุคคลธรรมดาจะต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 10 ของเงินปันผลที่ได้รับ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสามารถเลือกที่จะนำเงินปันผลไปรวมคำนวณภาษีเงินได้ประจำปีได้ โดยสามารถนำภาษีหัก ณ ที่จ่ายไปเครดิตภาษีได้ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
ข้อควรทราบ: กฎหมายภาษีอาจมีการเปลี่ยนแปลง นักลงทุนควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดกับกรมสรรพากรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี
ตราสารทุนเหมาะกับนักลงทุนประเภทไหน?
ตราสารทุนเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีลักษณะดังต่อไปนี้:
- ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนสูง: ตราสารทุนมีศักยภาพในการให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าในระยะยาว
- ยอมรับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางถึงสูง: นักลงทุนต้องเข้าใจว่าราคาตราสารทุนมีความผันผวน และอาจขาดทุนได้
- มีระยะเวลาลงทุนยาวนาน: การลงทุนในตราสารทุนมักจะได้ผลดีเมื่อถือครองในระยะยาว เพื่อให้มีเวลาเพียงพอที่ผลตอบแทนทบต้นจะแสดงศักยภาพ และผ่านพ้นความผันผวนระยะสั้นของตลาดไปได้
- ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของบริษัท: การเป็นเจ้าของตราสารทุนหมายถึงการได้เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทและร่วมเติบโตไปกับธุรกิจ
- ต้องการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว: ตราสารทุนเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว ผ่านการลงทุนอย่างมีวินัยและการกระจายความเสี่ยง
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรประเมินตนเองและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจลงทุน
發佈留言
很抱歉,必須登入網站才能發佈留言。